บทความ

ใบงานที่ 3.3

ใบงานที่  3.3 การจัดการดิกชันนารี จุดประสงค์ 1.  นักเรียนสามารถจัดการข้อมูลดิกชันนารีได้ 1.  โครงสร้างของดิกชันนารี          โครงสร้างของดิกชันนารีไม่เหมือนกับโครงสร้างของลิสต์หรือทูเพิล   แต่มีโครงสร้างของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง   ในลักษณะที่ดิกชันนารีจะต้องมีคีย์และข้อมูล เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ จะขอยกตัวอย่างจากคำสั่ง numberDic = {1 : 'one', 2 : 'two', 3 : 'three', 4 : 'four'} คีย์ ได้แก่  1, 2, 3, 4  ข้อมูล   ได้แก่  'one', 'two', 'three', 'four' แต่ทั้งคีย์และข้อมูลจะต้องไปด้วยกัน เช่น ข้อมูลของคีย์  1  หมายถึง  'one'  เท่านั้น รูปแบบคำสั่ง ชื่อดิกชันนารี  = { คีย์  1:’ ข้อมูล 1’, คีย์  2:’ ข้อมูล 2’, คีย์  3:’ ข้อมูล 3’... คีย์  N:’ ข้อมูล N’} 2.  การเพิ่มข้อมูลเข้าไปในดิกชันนารี        การเพิ่มข้อมูลเข้าไปในดิกชันนารี ต้องระ...

ใบงานที่ 5

รูปภาพ
จุดประสงค์ 1. เพื่อให้สร้างเมนูโปรแกรมได้ 2. สร้างโปรแกรมย่อยได้ ผลออกมาได้ดังรูป     #!/use/bin/python ประกาศที่อยู่ python # -*- coding : utf -8-*- MenuTxt = ("0. เมนู0","1. เมนู1","2. เมนู2","3. เมนู3") //คำสั่งสร้างตัวแปรเก็บข้อมูล 3 ลำดับ print (MenuTxt [0]) //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 0 ของตัวแปร MenuTxt   ทางหน้าจอ print (MenuTxt [1]) //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 1 ของตัวแปร MenuTxt   ทางหน้าจอ print (MenuTxt [2]) //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 2 ของตัวแปร MenuTxt   ทางหน้าจอ print (MenuTxt [3]) //คำสั่งให้แสดงข้อมูล 3 ของตัวแปร MenuTxt   ทางหน้าจอ menu=0 //คำสั่งให้ menuเท่ากับ 0 while menu<1: //คำสั่งเงื่อนไขให้ข้อมูลในตัวแปรไม่น้อยกว่า 1     menu = input("กรุณาเมนู 0-3 : ")     if menu<4 : //การทำงานของคำสั่งคือถ้าข้อมุลใน menu น้อยกว่า 4 ให้ไปคำสั่ง else         print (MenuTxt[menu]) // คำสั่งให้แสดงขอ้มูลในตัแปร MenuTxt ทางหน้าจอ     else :  ...

ใบงานที่ 4

รูปภาพ
ใบงานที่ 4 จงเขียนโปรแกรมคำนวณรุปเลขาคณิตต่อไปนี้ คำนวณหารูปสามเหลี่ยม #!/use/bin/python # -*- coding : utf -8-*- B = input ("Base: ") H = input ("Hight : ") print"========================" print "Base : ",B print "Hight : ",H area = (B*H)/2 print "Triangle Area : ",area   คำนวณหารูปสี่เหลี่ยมคางหมู #!/use/bin/python # -*- coding : utf -8-*- H = input ("Hight : ") P = input ("Parallel_side : ") print"========================" print "Hight : ",H print "Parallel_side : ",P area = 0.5*(H*P) print "Triangle Area : ",area   คำนวณหารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า #!/use/bin/python # -*- coding : utf -8-*- W = input ("Width : ") L = input ("Long : ") print"========================" print "Width : ",W print "Long : ",L area = W*L print "Triangle Area : ",area คำนวณหารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส #!/use/bin...

ใบงานที่ 3.2

ใบงานที่ 3.2 การจัดการทูเพิล 1. นักเรียนสามารถจัดการข้อมูลลิสต์ได้      ทูเพิลมีลักษณะโครงสร้างคล้ายกับลิสต์ คือ สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ๆ ในตัวแปรเดียวกัน แต่ทูเพิลจะเก็บข้อมูลคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก ทำให้ตำแหน่งของข้อมูลคงที่แน่นอนการเข้าถึงข้อมูลของทรูเพิลจึงได้รวดเร็วกว่า การเข้าถึงข้อมูลของลิตส์ การเข้าถึงข้อมูลโดยการระบุเลขดัชนีเช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกัน     และไม่สามารถเพิ่มลบข้อมูลได้โดยตรง จึงทำให้ต้องรู้  นอกจากนี้เมื่อต้องการเปลี่ยนชนิดข้อมูลจากทูเพิลไปเป็นลิสต์ สามารถใช้ฟังก์ชัน list() ได้ในทางกลับกัน สามารถเปลี่ยนจากลิสต์เป็นทูเพิลได้เช่นเดียวกัน ด้วยฟังก์ชัน tuple() ซึ่งเหมาะสำหรับแก้ปัญหาในกรณีที่ทูเพิลไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ จึงเปลี่ยนให้เป็นลิสต์เสียก่อนแล้วจึงเปลี่ยนแปลงข้อมูล หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนกลับเป็นทูเพิลดังเดิม คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทูเพิล มีดังตัวอย่างต่อไปนี้     1.การสร้างทรูเพิล มายถึง การสร้างตัวแปรเก็บข้อมูลแบบทรูเพิล มีวิธีการ คือ การกำหนดชื่อทรูเพิล ...

ใบงานที่ 3

ใบงานที่ 3   ใบงานที่  3.1 การจัดการข้อมูลและข้อความ การจัดการลิสต์ การจัดข้อมูลแบบลิตส์ มี  5  แบบได้แก่ 1.  การสร้างลิสต์   หมายถึง การสร้างตัวแปรเก็บข้อมูลแบบลิสต์ มีวิธีการ คือ การกำหนดชื่อลิสต์ และมีเครื่องหมายเท่ากับ  (=)  จากนั้นใช้เครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยมเปิด  ([)  แล้วมีข้อมูลที่ต้องการเก็บอยู่ในเครื่องหมายวงเล็บเหลี่ยมเปิดและปิด ถ้าต้องการเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขใช้เพียงเครื่องหมายจุลภาค  (,)  คั่นกลางระหว่างข้อมูล แต่ถ้าเป็นข้อมูลชนิดสายอักขระให้พิมพ์ไว้ในเครื่องหมายอัญประกาศ ("") รูปแบบคำสั่ง ชื่อลิสต์  = [  ข้อมูลลำดับที่ 0,  ข้อมูลลำดับที่ 1,  ข้อมูลลำดับที่ 2, ... ข้อมูลลำดับสุดท้าย  ] ตัวแปรลิตส์มีการเก็บข้อมูล  4  ลักษณะได้แก่ 1.1  ลิตส์แบบเก็บข้อมุลเลขจำนวนอย่างเดียว   MyList = [2550, 2551, 2552, 2553, 2554]  ผลการทดลอง               จากการทดลอง จะยังไม่มีการแสดงตัวเลข การทำงานของคำสั่ง   ...